ศัลยกรรมกำจัดถุงใต้ตา / ตกแต่งผิวใต้ตา (Eye Bag Surgery)

การศัลยกรรมกำจัดถุงไขมันใต้ตา หรือตกแต่งผิวใต้ตา (Eye bag surgery หรือ Lower eyelid surgery) เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมทั้งในไทย และต่างประเทศ ซึ่งจะมีการตัดแต่งยกกระชับผิวหนังตาล่าง และจัดเรียงถุงไขมันใต้ตาล่าง เพื่อปรับดวงตาให้สดใส คืนความอ่อนวัยให้กับใบหน้า

ทำไมต้องศัลยกรรมกำจัดถุงใต้ตา / ตกแต่งผิวใต้ตา

ถุงใต้ตาเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบมากในคนไทย ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงปูด หรือนูนออกมาใต้ดวงตา ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส และมีอายุ ปัญหานี้อาจพบได้ตั้งแต่อายุไม่มาก เนื่องจากกรรมพันธุ์ ในบางเคสเมื่ออายุมากขึ้น อาจมีปัญหาถุงใต้ตาร่วมกับความหย่อนคล้อยของผิวหนังใต้ตาด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมกำจัดถุงไขมันใต้ตา หรือตกแต่งผิวใต้ตาให้ตึงขึ้น

เทคนิคการผ่าตัดกำจัดถุงใต้ตา / ตกแต่งผิวใต้ตา

ปัจจุบันนี้มีเทคนิคมาตรฐาน 2 เทคนิคในการลดปัญหาถุงไขมันใต้ตา และผิวใต้ตา ขึ้นอยู่กับความต้องการ และปัญหาของแต่ละบุคคล

เทคนิคที่ 1 การผ่าตัดตาล่างเทคนิคแผลใน (Transconjunctival Lower Blepharoplasty)

การผ่าตัดตาล่าง เทคนิคแผลใน เป็นการเทคนิคแบบไร้รอยแผลด้านนอก โดยการเปิดแผลผ่านทางเยื่อบุแผลด้านในตา ทำให้ไม่เกิดรอยแผลผ่าตัดบริเวณภายนอก ไม่ต้องเย็บแผล ไม่ต้องตัดไหม อาการบวมช้ำน้อย และหายไว เทคนิคนี้จะทำการตกแต่งไขมันส่วนเกินออกในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับย้ายไขมันบริเวณใต้ตา เพื่อให้ตาล่างนั้นดูเต็ม และไม่เป็นร่องลึกบริเวณใต้ตา

เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อายุยังน้อย หรือผู้ที่มีไขมันเกิน แต่ยังไม่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อยมากนัก

เทคนิคที่ 2 การผ่าตัดตาล่าง เทคนิดแผลนอก (Lower eyelid surgery – standard lower blepharoplasty) 

การผ่าตัดตาล่างเทคนิคแผลนอก เป็นการเปิดแผลบริเวณขอบตาล่างด้านนอก แผลจะถูกซ่อนชิดตามแนวขนตาด้านล่าง ซึ่งสามารถทำให้ตัดตกแต่งไขมัน และหนังตาส่วนเกินร่วมกับย้ายไขมันบริเวณใต้ตา เพื่อให้ตาล่างนั้นดูเต็ม และไม่เป็นร่องลึกบริเวณใต้ตา

เทคนิคนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ค่อนข้างมีอายุ หรือผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตา และมีผิวใต้ตาหย่อนคล้อยร่วมด้วย

ทั้งนี้ ก่อนการผ่าตัดศัลยกรรมตาล่าง แพทย์จะประเมินความแข็งแรงของเอ็นตาล่างก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงผลแทรกซ้อน ที่ไม่พึงประสงค์ของการผ่าตัด

รายละเอียดการศัลยกรรมกำจัดถุงใต้ตา

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดศัลยกรรมกำจัดถุงใต้ตา หรือตกแต่งผิวใต้ตา

  1. ในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ควรหมั่นประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอบริเวณรอบดวงตา และหน้าผาก เพื่อช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการเลือดออก และลดอาการบวม
  2. นอนศีรษะสูง และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงข้างในช่วง 2 คืนแรกหลังการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมของเปลือกตา
  3. ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล และตามด้วยยาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้ง ทาเบาๆ บริเวณแผลด้วยไม้พันสำลี
  4. ควรระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ โดนเหงื่อ หรือความมัน ในช่วงก่อนตัดไหม
  5. ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานของหมักดอง อาหารทะเล เป็นเวลา 3 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อป้องกันแผลคัน และแผลนูน
  6. รับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
  7. สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรสวมแว่น หรือแว่นกันแดด เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
  8. ลดการใช้สายตาในการเล่นคอม และมือถือ
  9. นัดพบแพทย์เพื่อติดตามอาการ และตัดไหมประมาณ 5-7 วัน หลังทำศัลยกรรม

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการศัลยกรรมถุงใต้ตา / ตกแต่งผิวใต้ตา

การจัดเรียงไขมันใต้ตา สามารถแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตาได้ หรือไม่

ร่องลึกใต้ตา เป็นรอยต่อของช่วงแก้มกับเบ้าตา ซึ่งเกิดจากความหย่อนคล้อยของโครงสร้างใบหน้า การกำจัดถุงใต้ตา จะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาตึงขึ้น ความเหลื่อมล้ำที่เห็นจะจางลง แต่ไม่ได้หายไปทั้งหมด สำหรับคนที่มีร่องลึก อาจต้องใช้วิธีแก้ไขเพิ่มเติม เช่น การเติมไขมันลงไปในร่องลึก หรือการเติมฟิลเลอร์

การผ่าตัดถุงใต้ตา สามารถแก้ไขในเรื่องของถุงใต้ตาที่นูน และผิวหนังส่วนเกินให้เรียบตึงขึ้นได้ แต่ยังมีอีกหลายปัญหาผิวใต้ตาที่การผ่าตัดถุงใต้ตา ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ เช่น บางคนยิ้มแล้วเห็นรอยย่น หรือตีนกาบริเวณใต้ตา ซึ่งปัญหาความหย่อนคล้อยเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยนวัตกรรมยกกระชับผิวรอบดวงตา โดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น Ultherapy คือการยกกระชับผิวด้วยคลื่นพลังงานอัลตราซาวด์ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

รู้ลึก รู้จริง ทุกเรื่องศัลยกรรม

ปรึกษาทางออนไลน์ ฟรี สามารถสอบถามได้ทุกเรื่อง

วันจันทร์ – วันอาทิตย์

08.00 น. – 20.00 น.